5 วิธี ดูแลห้องชุดให้เหมือนใหม่
เคยไหม… ที่ตื่นเช้ามาแล้วรู้สึก มึนๆ ตื้อๆ ไม่สดใส ทั้งที่นอนแต่หัวค่ำ หรือมักจะไอจามน้ำมูกไหลอยู่บ่อยๆ ทั้งที่ไมได้เป็นหวัด อาการไม่สบายตัวและไอจามนี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าถึงเวลาที่คุณต้องจัดเวลาสำหรับการดูแลห้องชุด และเปลี่ยนห้องที่เคยรกให้ดูใหม่กันเสียที
สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งของที่พักอาศัย คือ การถ่ายเทของอากาศในระดับที่พอเหมาะ มีออกซิเจนไหลเวียนอย่างเพียงพอ แต่ห้องพักอาศัยที่อยู่มาระยะหนึ่งมักเต็มไปด้วยข้าวของที่วางระเกะระกะ กีดขวางการถ่ายเทของอากาศทำให้ห้องอับ และนำมาซึ่งอาการไม่สบายตัวและเจ็บป่วยในที่สุด
อาการที่เกิดขึ้นจากการไม่ถ่ายเทของอากาศ หรือการสะสมของสารพิษนั้น บางทีก็เรียกกันว่า Sick Office Building หรือการตึกเป็นพิษ ซึ่งส่วนมากมักเกิดกับคนทำงานในออฟฟิศ แต่ก็สามารถเกิดขึ้นกับที่พักอาศัยได้ โดยเฉพาะในวัยทำงานหลายๆ คน ที่แทบจะไม่มีเวลาดูแลห้องชุด หรือที่พักอาศัย ดังนั้นเมื่อคุณรู้สึกไม่สบายตัว ไม่สดชื่น หรือมีอาการไอจาม อาจจะถึงเวลาที่คุณต้องจัดที่พักอาศัยเสียใหม่ โดยเรามีแนวทางง่ายๆ ในการดูแลห้องชุดไม่ให้กลับมาสร้างปัญหาได้อีก ดังนี้
1. เลิกนิสัยนักสะสม-ทิ้งของไม่จำเป็นบ้าง
ในห้องพักอาศัยมักจะมีสิ่งที่ไม่จำเป็นเก็บซ่อนไว้อยู่โดยปรกติแล้วในห้องพักขนาดที่ไม่ใหญ่นั้นไม่ควรที่ของไม่จำเป็นมากเกินไป ซึ่งพิจารณาได้ง่ายๆ ข้าวของเครื่องใช้ที่เราไม่เคยสัมผัสเลยในระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน ของเหล่านั้นมักเป็นของไม่จำเป็นให้ตัดใจทิ้งไปซะหรือหากตัดใจไม่ได้ก็ให้ย้ายไปเก็บไว้ที่บ้านหลังอื่น
2. จัดระเบียบสิ่งของ
ถ้ามีลิ้นชักเก็บของเพียงพอให้แยกที่เก็บให้เหมาะสม เช่น เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ หนังสือ ให้แยกเก็บเป็นที่ กรณีจำเป็นจริงๆ สามารถซื้อชั้นเก็บของหรือกล่อง เพื่อจัดระเบียบข้าวของให้เป็นที่เป็นทาง
3. เลือกใช้ฟังก์ชันเฟอนิเจอร์
เฟอนิเจอร์ใหม่ๆ มักจะมีฟังก์ชันเก็บของติดมาด้วย ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีในการจัดห้องให้น่าอยู่ เช่น เตียงนอนที่มีลิ้นชัก โต๊ะอาหารฟังก์ชันที่กางและพับเก็บได้ รวมถึงการเลือกใช้ชั้นวางแนวตั้งที่มีความสูง เพื่อให้ใช้พื้นที่แนวตั้งอย่างคุ้มค่า
4. สร้างนิสัยใช้แล้วเก็บ
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ข้าวของวางระเกะระกะ คือ นิสัยใช้ของแล้วไม่เก็บเข้าที่ ดังนั้นเมื่อใช้อะไรแล้วควรเก็บเข้าที่ทุกครั้ง ซึ่งจะทำให้ห้องเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดตาขึ้น
5. คิดก่อนซื้อ
หากห้องของคุณไม่ได้ใหญ่มาก คุณต้องฝึกนิสัยการพิจารณาก่อนซื้อเสมอว่า ของที่จะซื้อจำเป็นหรือไม่ ซื้อแล้วจะมีที่เก็บไหม เพื่อให้ได้ของที่จำเป็นต้องใช้ที่สุด และมั่นใจว่าจะไม่เป็นของที่ทำให้ห้องรกเพิ่มขึ้น
และสำหรับข้าวของที่ไม่ได้ใช้แล้ว ไม่รู้ว่าจะเอาไปไหน ลองนำมาแบ่งปันกับกิจกรรมในชุมชนของเราก็ได้นะคะ เรามีกิจกรรมดีๆ อย่างเช่น ตลาดนัดปันกัน ที่นำของมือสอง หรือของที่ไม่ได้ใช้แล้ว มาเปลี่ยนเป็นเงินทุนการศึกษาให้กับน้องๆ ในมูลนิธิยุวพัฒน์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ชุมชนเราจัดขึ้นหมุนเวียนไปเป็นประจำทุกๆ ปี หรือสามารถร่วมแบ่งปันได้โดยตรงที่ มูลนิธิก็ได้เลยค่ะ
เพียง 5 วิธีง่ายๆ คุณก็จะได้ที่สวยงามน่าอยู่กลับคืนมา พร้อมๆ กับสุขภาพที่ดีขึ้น ลองนำไปปรับใช้กับห้องของคุณได้นะคะ