ทานอาหารมื้อเดียว – ยิ่งหิว ยิ่งสุขภาพดี

แอดมินได้อ่านหนังสือ เกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่ทำให้เราสุขภาพดี และแก่ช้าลงด้วยการทานอาหารแค่วันละหนึ่งมื้อ วิธีนี้อยู่ในหนังสือ “ยิ่งหิวยิ่งสุขภาพดี” เขียนโดย นายแพทย์โยะชิโนะริ นะงุโม (Yoshinori Nagumo)

คุณหมอที่เห็นในภาพอายุ 62 ปี แต่หน้าตาเหมือนไม่ถึง 40 ปี นั่นก็น่าทึ่งแล้ว คุณหมอแนะนำว่าแค่เริ่มต้นไม่กี่วัน ก็จะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพได้ กลิ่นตัวจะหายไป ผิวหนังจะเนียนขึ้น หน้าท้องจะเรียบขึ้น รูปลักษณ์ของคนผอมจะเริ่มปรากฏ และจิตใจคึกคักขึ้นกว่าเก่า

เป็นวิธีที่แปลก และหลายคนคงตั้งคำถามว่าใครจะไปทำแบบนั้นได้ ไม่หิวแย่เหรอ แอดมินเลยอยากแชร์เทคนิคของคุณหมอท่านนี้ให้เพื่อนสมาชิกลุมพินีไว้เป็นอีกหนึ่งแนวทางการดูแลสุขภาพค่ะ

มนุษย์ในอดีตไม่ได้กินสามมื้อเหมือนปัจจุบัน ดังนั้นร่างกายเราจึงมีภูมิคุ้มกันในตัวเอง ซึ่งเป็นกระบวนการเพื่อการอยู่รอดตามธรรมชาติ  เมื่อเราหิวและท้องร้องจ๊อกๆ จะมี “ยีนเซอร์ทูอิน” ออกมาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่างๆ ภายในร่างกาย และร่างกายก็จะผลิต Growth Hormone ออกมา ซึ่งเจ้า Growth Hormone นี้ทำให้เรากลับเป็นหนุ่มสาวมากขึ้น จากการทดลองกับสัตว์หลายชนิดพบว่า เมื่อลดปริมาณอาหารลง 40% จะทำให้อายุยืนขึ้น 1.5 เท่า และลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง

ถ้าร่างกายอิ่มเกินไป กลไกการผลิตยีนเซอร์ทูอิน และ Growth Hormone จะไม่เกิด เราจึงแก่ไปเรื่อยๆ การกินมากไปคือสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคภัยต่างๆ ร่างกายเราไม่ได้ถูกออกแบบให้กินอิ่ม เราจึงปรับตัวให้การกินอิ่มได้ไม่ดี ทำให้กระบวนการธรรมชาติของร่างกายเรารวนและยีนผิดปกตินั่นเอง

ข่าวดีสำหรับคนที่ต้องการลดพุงและไขมันส่วนเกินอีกข้อคือ  เวลาเกิด “ความหิว” ร่างกายจะนำไขมันที่สะสมไว้ในช่องท้อง มาเปลี่ยนเป็นสารอาหาร ทำให้หน้าท้องเราแบนราบด้วย การปรับเปลี่ยนมากินวันละมื้อ ก็มีข้อแนะนำง่ายๆดังนี้ค่ะ

• อย่าใช้วิธีหักดิบ ให้ทำแบบค่อยๆลดปริมาณอาหาร หรือค่อยๆปรับพฤติกรรมการกิน ให้ร่างกายค่อยๆเกิดความชินและปรับตัวได้ เช่น ค่อยๆปรับลดปริมาณอาหารแต่มื้อลงก่อน
• การกินอาหารวันละหนึ่งมื้อ แนะนำให้ทานมื้อกลางวัน ในมื้อนี้อยากกินอะไร ก็ตามใจตัวเองได้ ส่วนช่วงอื่นๆของวัน หากหิวมากก็เสริมด้วยผลไม้และอาหารเบาๆ เช่น ไข่ต้ม, กล้วย
• การนอนที่ดีคือ นอนในช่วงร่างกายผลิต Growth Hormone ได้ดีที่สุด นั่นก็คือ ช่วงเวลาระหว่าง สี่ทุ่มถึงตีสอง

ตามที่หนังสือแนะนำ หากเพื่อนๆ สามารถทำตามได้ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีนะคะ แต่แอดมินคิดว่า หากจะนำมาปรับใช้ต้องสำรวจตัวเองก่อนว่าร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว เมื่อลองลดอาหารไปแล้วจะไม่มีผลกระทบทางลบให้กับตัวเอง หรือปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ

แต่สำหรับแอดมินแล้วขอเลือกทางสายกลางจะดีกว่าค่ะ กินครบ 3 มือ อย่างเพียงพอ ไม่มากไม่น้อย และไม่ทานเหลือเป็นการใช้ทรัพย์ยาการโลกอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ที่สำคัญการออกกำลังกายสม่ำเสมอ เราก็ดูหนุ่มสาวช่วยห่างไกลจากยาและหมดได้แน่ๆ ค่ะ