รู้ยัง!! ปล่อยเช่าห้องชุดรายวันผิดกฎหมาย
ปัจจุบันการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอสังหาริมทรัพย์ประเภทห้องชุดพักอาศัยในคอนโดมิเนียม เนื่องจากผลตอบแทนสูงและมีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนชนิดอื่น ทั้งในรูปแบบซื้อเพื่อเก็งกำไร และซื้อเพื่อปล่อยเช่า โดยผู้ลงทุนที่ซื้อเพื่อเก็งกำไรนั้น มุ่งหวังเพียงผลตอบแทนที่จะกลับคืนมาเร็ว ทำให้ต้องจองซื้อไว้หลายห้องเพื่อจะได้จำนวนเงินมากขึ้น แต่ก็อาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการลงทุนเช่นกัน ส่วนผู้ลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่า เป็นการลงทุนระยะยาวที่ผลตอบแทนกลับคืนมาเป็นรายได้ที่ต่อเนื่องในอนาคต ทำให้การลงทุนรูปแบบนี้มีผู้สนใจเพิ่มมากขึ้น
แต่นั่นก็นำมาซึ่งปัญหากับผู้ลงทุนที่อยากนอกกรอบ (แบบผิดกฎหมาย) ด้วยการปล่อยเช่าห้องชุดแบบรายวัน โดยฝากเช่าผ่านแอพพลิเคชั่นสำหรับคนที่ต้องการหาห้องเช่ารายวันแบบราคาประหยัด แทนเข้าพักตามโรงแรมที่มีราคาสูง ตัวอย่างเช่น แอพพลิเคชั่น Airbnb ที่รองรับความต้องการที่ตรงกันของผู้ให้เช่าและผู้เช่า เนื่องจากผู้เช่าสามารถเลือกห้องพัก ราคา และทำเลที่ตรงตามความต้องการ ซึ่งอาจเช่าเพียงวันเดียว หรือสองวันก็ได้ โดยไม่ต้องทำสัญญาในระยะยาว อย่างไรก็ตาม หลายท่านอาจไม่ทราบว่า การปล่อยเช่าชุดแบบรายวัน และรายสัปดาห์นั้น ผู้ให้เช่าจะมีความผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) พ.ศ. 2547 โดยมีโทษจำคุก และโทษปรับ นอกจากนั้นยังต้องเสียค่าปรับเป็นรายวันจนกว่าจะเลิกการกระทำดังกล่าว
มาตรา 15 ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบธุรกิจโรงแรม เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน การขอใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
มาตรา 59 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 15 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่
ขอยกกรณีนี้ที่มีคำพิพากษาของศาลออกมา เพื่อย้ำเตือนว่าการปล่อยเช่าห้องชุดรายวัน และรายสัปดาห์ผิดกฎหมาย
คดีที่ 1 จำเลยได้ปล่อยเช่าห้องชุดรายวัน โดยนิติบุคคลไปฟ้องต่อศาล ศาลมีคำพิพากษาโดยว่า การกระทำของจำเลยได้ทำผิด ตาม พ.ร.บ. โรงแรม พ.ศ.2547 มาตรา 15 และ มาตรา 59 แต่จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ศาลจึงพิพากษาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง โดยยังคงปรับ 5,000 บาท และปรับรายวันอีกวันละ 500 บาท เป็นจำนวน 20 วัน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 15,000 บาท
คดีที่ 2 จำเลยได้ปล่อยเช่าห้องชุดรายวัน โดยนิติบุคคลไปฟ้องต่อศาล ศาลมีคำพิพากษาโดยว่า การกระทำของจำเลยได้ทำผิด ตาม พ.ร.บ. โรงแรม พ.ศ.2547 มาตรา 15 และ มาตรา 59 แต่จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ศาลจึงพิพากษาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง โดยยังคงปรับ 5,000 บาท และปรับเป็นรายวันอีกวันละ 100 บาท เป็นจำนวน 81 วัน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 13,100 บาท
เมื่อพิจารณาจากอัตราโทษแล้ว การปล่อยเช่าห้องชุดรายวันและรายสัปดาห์เป็นการเสี่ยงต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับห้องชุดของผู้ลงทุนนั้นๆ เนื่องจากผู้ให้เช่าไม่มีโอกาสได้ตรวจดูประวัติ หรือเอกสารต่างๆ ของผู้เช่าเลย เพียงแต่ทำการจอง และโอนเงินผ่านออนไลน์เท่านั้น ซึ่งเป็นการเปิดทางให้ผู้ไม่หวังดีหรือมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาเป็นผู้เช่าเพื่อกระทำการอันผิดกฎหมาย ตามที่เห็นจากข่าว คือ เช่าเพื่อตั้งการพนันออนไลน์ เป็นแหล่งกบดานของอาชญากรรมทั้งในและต่างประเทศ โดยสร้างปัญหาให้กับผู้ให้เช่าเอง และผู้ที่อยู่อาศัยร่วมกันในคอนโดมิเนียม ทำให้การปล่อยเช่าในระยะเวลาสั้นๆ อาจไม่มีความคุ้มค่าที่จะลงทุน ต่างกับการปล่อยเช่าห้องชุดแบบรายเดือนที่มีการทำความรู้จักกับผู้เช่า ด้วยการตรวจสอบประวัติผู้เช่าก่อนตัดสินใจลงนามในสัญญาเช่า เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากการกระทำผิดกฎหมายภายในห้องชุด นอกจากนี้ ยังมีการส่งข้อมูลผู้เช่าให้กับนิติบุคคลอาคารชุด เพื่อทำทะเบียนการพักอาศัย โดยมีเอกสารประกอบสำคัญมาก ได้แก่ สำเนาสัญญาเช่าห้องชุด สำเนาทะเบียนบ้านของผู้เช่า สำเนาบัตรประชาชน/ สำเนาหนังสือเดินทาง (เฉพาะบุคคลต่างด้าว) เพราะนิติบุคลอาคารชุดควรมีข้อมูลครบถ้วนเพื่อตรวจสอบและติดต่อยามมีเหตุฉุกเฉิน ด้วยเหตุนี้ การลงทุนปล่อยเช่าแบบรายเดือนจึงมีความคุ้มค่า และปลอดภัยมากกว่า
หากการลงทุนที่มีผลตอบแทนดี แต่ความคุ้มค่าเป็นลบ จบความเสี่ยงนี้ แล้วแสวงหาการลงทุนที่มีผลตอบแทนระยะยาวน่าจะคุ้มค่ากว่ากันเยอะ … มาเปลี่ยนการลงทุนรายวันเป็นรายเดือน ไม่ผิดกฎหมาย แล้วยังเห็นอนาคตสดใสข้างหน้าอีกด้วย